สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น

Literature Review

Chapter 2 Literature Review

Chapter 2 นี้ ได้ทำการจัดคำ Prompt ที่สามารถนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมในการเริ่มทำการ Research หรือวิจัยข้อมูลได้

01

Related theories and concepts

02

Related research studies

03

Conceptual framework

Example Prompt

As [a/an] [Role], "[Action] for the topic '[Topic],' where the [Output] should reflect the [Key Consideration] and must be [Constraint]." by defining [Element 1], [Element 2], and [Element 3] clearly, and deliver a [Format] and [Quality Standard] [Result].

As an academic researcher, "Create a research hypothesis for the topic 'The Impact of Online Learning,' where the hypothesis should reflect the significant impacts identified in the Literature Review and must be testable." by defining objectives, actions, and research scenarios clearly, and deliver a methodologically rigorous and academically sound report.

[As an academic researcher, "Develop a clear and measurable research question for the topic 'Exploring the Effectiveness of Gamification in K-12 Education,' where the question should focus on specific learning outcomes or student engagement metrics and be answerable through empirical data collection and analysis." by defining objectives, actions, and research scenarios clearly, and deliver a methodologically rigorous and academically sound report.]

ในฐานะนักวิจัยเชิงวิชาการ จง สร้างสมมติฐานการวิจัยสำหรับหัวข้อ ‘ผลกระทบจากการเรียนออนไลน์’ โดยสมมติฐานควรสะท้อนถึงผลกระทบที่สำคัญที่ได้รับการระบุใน Literature Review และต้องทดสอบได้ โดยกำหนดวัตถุประสงค์ วิธีการ และสถานการณ์การศึกษาอย่างชัดเจน และจัดทำรายงานที่มีความถูกต้องเชิงวิชาการ

Prompt Framework

R-O-S-T

คำอธิบาย: คือกรอบการเขียนพรอมต์ (Prompt Framework) ที่ช่วยให้การสื่อสารกับ AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • Role: กำหนดบทบาทของ AI (เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด, นักเขียนบทความ)

  • Objective: ระบุวัตถุประสงค์หลักของงานที่ต้องการให้ AI ทำ

  • Steps: แจกแจงขั้นตอนหรือลำดับการทำงานที่ชัดเจน

  • Tone: กำหนดน้ำเสียงหรือสไตล์การเขียนที่ต้องการ

ข้อแตกต่างการใช้ R-O-S-T และไม่ใช้ R-O-S-T

ไม่ใช้ใช้

❌ “เขียนบทความเชิงวิชาการ เรื่อง AI”

  • Role: “คุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และเทคโนโลยี”

  • Objective: “เขียนบทความเชิงวิชาการเพื่อวิเคราะห์และประเมินผลกระทบระยะสั้นและระยะยาวของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อตลาดแรงงานและการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต”

  • Scope: “เนื้อหาควรครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงทักษะที่จำเป็น, การสร้างงานใหม่, การสูญเสียงาน, และนโยบายที่รัฐบาลควรนำมาใช้”

  • Details: “บทความควรมีความยาวประมาณ 1,500 คำ, ใช้รูปแบบการอ้างอิงแบบ APA 7th edition, มีการนำเสนอข้อมูลเชิงสถิติจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถืออย่างน้อย 3 แหล่ง, และมีบทสรุปที่ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง”

R-T-F

ให้ AI สวมบทบาท ทำงานที่กำหนด และตอบในรูปแบบที่ต้องการ การกำหนดองค์ประกอบเหล่านี้ให้ชัดเจน จะช่วยให้ ChatGPT เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ และสร้างผลลัพธ์ที่ตรงจุดยิ่งขึ้น

  • Role: กำหนดบทบาทของ AI

  • Task: อธิบายงานที่ต้องทำอย่างละเอียด

  • Format: ระบุรูปแบบของผลลัพธ์ที่ต้องการ (เช่น ตาราง, รายการ, บทความ)

ข้อแตกต่างการใช้ R-T-F และไม่ใช้ R-T-F

ไม่ใช้ใช้

❌ “เขียนรายงานวิชาการเรื่อง เทคโนโลยีการเงิน”

  • Role: “คุณคือผู้ช่วยนักวิจัยที่กำลังเขียนรายงาน”

  • Task: “รวบรวมและสรุปข้อมูลเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในภาคการเงินและการธนาคาร โดยเน้นที่ความปลอดภัยของธุรกรรมและประสิทธิภาพในการลดต้นทุน”

  • Format: “รายงานต้องประกอบด้วยบทนำ, ส่วนเนื้อหาที่แบ่งเป็นหัวข้อย่อยได้แก่ ‘การประยุกต์ใช้ Blockchain ในการโอนเงินระหว่างประเทศ’, ‘การใช้ Smart Contracts สำหรับการออกสินเชื่อ’, และ ‘ความท้าทายด้านกฎระเบียบ’, และบทสรุป”

 

C-A-R-E

อธิบายบริบท → ระบุสิ่งที่ให้ทำ → คาดหวังผลลัพธ์ → เสริมตัวอย่างเพื่อความชัดเจน เน้นให้ผู้ใช้ระบุบริบท กำหนดสิ่งที่ต้องการให้ทำ คาดหวังผลลัพธ์ และให้ตัวอย่างที่ชัดเจนเพื่อเป็นแนวทาง ซึ่งการจัดโครงสร้างคำสั่งตามรูปแบบนี้จะช่วยให้ ChatGPT เข้าใจสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน และสามารถตอบสนองได้อย่างตรงเป้าหมาย

  • Context (บริบท): เล่าฉากหลังให้ AI เข้าใจ
  • Action (การกระทำ): สิ่งที่ให้ AI ทำ
  • Result (ผลลัพธ์): ผลลัพธ์ที่ต้องการ
  • Example (ตัวอย่าง): ตัวอย่างงาน/กรณีศึกษาใกล้เคียง

ข้อแตกต่างการใช้ C-A-R-E และไม่ใช้ C-A-R-D

ไม่ใช้ใช้

❌ “เขียนบทความเรื่อง พลังงานหมุนเวียน”

  • Context: “งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม”

  • Action: “วิเคราะห์การใช้พลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพิจารณาถึงนโยบายภาครัฐและปัจจัยทางเศรษฐกิจ”

  • Restriction: “ห้ามใช้ข้อมูลที่เก่ากว่าปี 2022 และห้ามใช้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่ใช่งานวิจัยหรือรายงานขององค์กรที่เชื่อถือได้”

  • Example: “ยกตัวอย่างโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่ในประเทศเวียดนามและโครงการพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์”

R-I-S-E

บอกบทบาท → ให้ข้อมูลที่มี → ขอขั้นตอนการทำงาน → ระบุสิ่งที่คาดหวัง โครงสร้างนี้ออกแบบมาเพื่อให้ ChatGPT สามารถให้คำตอบอย่างเป็นระบบ ด้วยการกำหนดชัดเจนว่าต้องแสดงบทบาทอะไร ใช้ข้อมูลอะไร ดำเนินการอย่างไร และผลลัพธ์สุดท้ายควรเป็นอะไร

  • R (Role): กำหนดบทบาท

  • I (Instruction): ให้คำแนะนำที่ชัดเจน

  • S (Scenario): ระบุสถานการณ์หรือบริบท

  • E (Expectations): กำหนดความคาดหวังในผลลัพธ์

ข้อแตกต่างการใช้ R-I-S-E และไม่ใช้ R-I-S-E

ไม่ใช้ใช้

❌ “วิจารณ์หนังสือเรื่อง ‘1984’ ของ George Orwell”

✅ “คุณคือ นักวิจารณ์วรรณกรรม (R).

จงเขียนบทวิจารณ์หนังสือเรื่อง ‘1984’ ของ George Orwell (I).

บทวิจารณ์ควรเน้น การวิเคราะห์ธีมเรื่องลัทธิเผด็จการและการควบคุมสังคม (S).

‘บทวิจารณ์ต้องเริ่มต้นด้วยประโยคที่น่าสนใจและมีเนื้อหาที่เจาะลึก’ (E).”

B-A-B

เล่าปัญหาปัจจุบัน → บอกผลลัพธ์ที่ต้องการ → ขอทางไปสู่เป้าหมายนั้น เน้นที่การแสดงให้เห็นถึง “การเปลี่ยนแปลง” อย่างชัดเจน โดยเริ่มจากสถานะก่อนหน้า (Before) ไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ (After) และมี “สะพาน” (Bridge) เชื่อมระหว่างจุดเริ่มต้นกับจุดหมาย

  • Before (ก่อน): ปัญหา/สถานะปัจจุบัน
  • After (หลัง): ภาพที่อยากให้เกิดขึ้น
  • Bridge (จุดเชื่อมโยง): ขอวิธี/ขั้นตอนในการเปลี่ยนจาก Before → After

ข้อแตกต่างการใช้ B-A-B และไม่ใช้ B-A-B

ไม่ใช้ใช้

❌ “เสนอวิธีการเรียนการสอนโรงเรียน”

✅ “การวิจัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษาในไทยยัง ขาดการนำไปใช้จริงในห้องเรียน (B).

เราต้องการให้ ผลงานวิจัยสามารถเป็นแนวทางให้ครูผู้สอนนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที (A).

จงเขียนข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อเชื่อมโยงผลงานวิจัยกับการปฏิบัติจริงในโรงเรียน (B).”

C-L-E-A-R

คำอธิบาย: กรอบการเขียนพรอมต์ (Prompt Framework) ที่ช่วยให้คำสั่งต่อ AI ชัดเจนและครบถ้วนยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและตรงตามความต้องการ

  • Context (บริบท): ให้ข้อมูลพื้นฐานหรือรายละเอียดของสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง

  • Language (ภาษา): ระบุภาษาที่ต้องการให้ AI ใช้ในการตอบ

  • Examples (ตัวอย่าง): ให้ตัวอย่างเพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน

  • Audience (กลุ่มเป้าหมาย): กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับสาร

  • Reason (เหตุผล): อธิบายเหตุผลหรือความสำคัญของงานนั้น

ข้อแตกต่างการใช้ C-L-E-A-R และไม่ใช้ C-L-E-A-R

ไม่ใช้ใช้

❌ “วิเคราะห์ผลกระทบตลาดแรงงานตอนนี้”

✅ “ในบริบทของ การเติบโตของเทคโนโลยี AI (C)

จงวิเคราะห์ผลกระทบต่อตลาดแรงงาน (L)

โดยใช้ ตัวอย่างอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ (E)

เขียนบทความวิเคราะห์ที่กระชับ (A) และ

ปรับให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่ายสำหรับนักศึกษาที่ไม่ใช่สายเทคโนโลยี (R).”

C-O-A-S-T

คำอธิบาย: รอบการเขียนพรอมต์ (Prompt Framework) ที่ช่วยให้คุณให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการเขียนหรือการสร้างสรรค์

  • Context: ให้ข้อมูลเบื้องต้น

  • Objective: กำหนดวัตถุประสงค์

  • Audience: ระบุกลุ่มเป้าหมาย

  • Style: กำหนดสไตล์การเขียนหรือน้ำเสียง

  • Tone: กำหนดน้ำเสียง (มักใช้ร่วมกับ Style)

ข้อแตกต่างการใช้ C-O-A-S-T และไม่ใช้ C-O-A-S-T

ไม่ใช้ใช้

❌ “เขียนบทความเรื่อง ผลกระทบของขยะพลาสติก”

✅”ในฐานะผู้เขียนบทความ เกี่ยวกับวิกฤตสิ่งแวดล้อม (C)

เป้าหมายคือ สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของขยะพลาสติก (O)

จงเขียนบทความให้ข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ (A).

เขียนใน รูปแบบของบทความให้ความรู้ (S)

และใช้ น้ำเสียงที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก (T).”

R-A-C-E

คำอธิบาย: กรอบการเขียนพรอมต์ (Prompt Framework) ที่ช่วยให้การสั่งงาน AI มีความแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องการผลลัพธ์ที่มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดที่ชัดเจน

  • Role: กำหนดบทบาท

  • Action: บอกสิ่งที่ต้องทำ

  • Constraints: กำหนดข้อจำกัดหรือข้อกำหนดพิเศษ

  • Examples: ให้ตัวอย่าง

ข้อแตกต่างการใช้ R-A-C-E และไม่ใช้ R-A-C-E

ไม่ใช้ใช้

❌ “สรุปการเลือกตั้งนักเรียนม.ต้น”

✅ คุณคือ ผู้บรรยายพิเศษด้านการเมือง (R).

จงสรุปความสำคัญของการเลือกตั้งให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมต้น (A).

คำอธิบายต้อง กระชับ ไม่ซับซ้อน และใช้ภาษาที่ง่ายต่อการเข้าใจ (C)

เพื่อปลูกฝังให้พวกเขามองเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมทางการเมืองในอนาคต (E).”

Go to Prompt Next Chapter :

Prompt Chapter 2

พึงพอใจในการใช้งานเว็บนี้หรือไม่?

หากท่านพึงพอใจ หรืออยากแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพรวมเว็บไซต์นี้ สามารถประเมินความพึงพอใจของเว็บไซต์ 5C (Chapter) of Research ได้ที่นี่เลย

Learning Guide

สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น

เลขที่ 123 ม.16 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40002
โทรศัพท์: 080-0722554 , 42625 สำนักงานอำนวยการ
                 093-5922556 ข้อมูลบริการต่างๆ
                 097-9322557 เคาน์เตอร์บริการ
แฟกซ์: 0 4320 2543
อีเมล: library.inbox@kku.ac.th
หมายเลขโทรศัพท์ภายใน

AI Support Team, 2025